พวกอมาตยาธิปไตยไทยใช้แนวความคิดและการเคลื่อนไหวแบบนาซีเยอรฯ
ถ้าเราลองศึกษากระบวนการเคลื่อนไหวของพรรคนาซีเยอรมันเพื่อขึ้นครองอำนาจใน เยอรมันนีก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เปรียบเทียบกับขบวนการอมาตยาธิปไตยไทยดูแล้ว จะเห็นความคล้ายคลึงกันค่อนข้างมากในด้านวิธีการ แนวความคิด และเครื่องมือที่ใช้ หากจะบอกว่า ขบวนการอมาตยาธิปไตยไทยนั้นน่าจะนำวิธีการเคลื่อนไหวของพรรคนาซีมาใช้ก็อาจ จะไม่ผิดนัก ลองมาศึกษากันดู
พรรคนา ซีหรือความจริงแปลตรงตัวคือพรรคสังคมชาตินิยมนั้น เน้นหนักลักษณะชนชาติที่เหนือกว่าชนชาติอื่นต้องเป็นผู้นำและผู้ปกครอง ส่วนชนชาติและบุคคลที่ด้อยกว่าต้องอยู่ในฐานะผู้ถูกปกครอง แนวความคิดนี้น่าจะพัฒนามาจากปรัชญาอภิชนนิยมที่เคยมีนักปรัชญาเยอรมันนำ เสนอว่า ชนชั้นปกครองนั้นต้องมีลักษณะส่วนบุคคลที่เหนือกว่าเป็นคนประเภท Super Human และผู้ด้อยกว่าต้องยอมรับผู้อยู่เหนือกว่า ยอมรับการต้องทำหน้าที่อื่นที่ไม่ใช่ผู้ปกครอง
พวกอมาตยาธิปไตยไทยก็ คิดแบบนั้นเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาถือว่าพวกตนเป็นชนชั้นสูงที่มีชาติตระกูลและประสบการณ์สูงกว่าในสังคม เขาเรียกร้องให้คงลักษณะคนพิเศษแบบพวกเขาไว้เป็นที่เชิดชูและผู้ถูกปกครอง ต้องยอมรับในความเป็นทาสไพร่ บางคนแบ่งแยกชัดเจนและเรียกคนเสื้อแดงว่าไพร่ของทักษิณเสียด้วยซ้ำ ถือเป็นไพร่ของพวกไพร่ ไม่ใช่ไพร่ของแผ่นดิน ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงนั้นคนเสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเขานั้นมาจากหลากหลาย ชนชั้น ไม่ได้ต่างจากไพร่ของพวกอำมาตย์ที่เชิดชูพวกเขาอยู่เลย แต่พวกเขาก็ยังถือว่าชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะเป็นผู้ปกครอง ไพร่ไม่มีสิทธิ หากจะได้รับคุณประโยชน์จากชนชั้นสูงก็เพราะความเมตตาปราณีอันถือเป็นคุณธรรม สำคัญของการเป็นผู้ปกครองนั้นเมื่อผู้ใดได้รับก็พึงคำนึงถึงด้วยความกตัญญู และต้องตอบแทนความเมตตาของพวกอมาตยาธิปไตยให้เหมาะสมด้วย
การเคลื่อนไหว
หาก พรรคนาซีมีขบวนการเชิ้ตสีน้ำตาลที่ฮิมเลอร์และเกอร์เบิ้ลเป็นผู้นำในการ เคลื่อนไหว พวกอมาตยาธิปไตยไทยก็มีพันธมิตรเสื้อเหลืองที่นำโดยสนธิ จำลอง เป็นผู้นำเช่นกันและเคลื่อนไหวด้วยวิธีที่ไม่แตกต่างกันนั่นคือใช้อำนาจและ อาวุธในการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย และได้รับการปกป้องจากอำนาจของอมาตยาธิปไตยไม่ให้ต้องรับโทษ คนของนาซีเคลื่อนไหวทำร้ายชาวยิวและชนชาติด้อยกว่าตนด้วยวิธีการรุนแรงแบบ ไหน คนของพันํธมิตรเสื้อเหลืองก็กระทำเช่นเดียวกัน อาวุธและอำนาจที่คนพวกนี้ใช้จะถูกนำมาเป็นแนวนำ และมวลชนของพวกเขาจะเป็นผู้หนุนช่วย ไม่ได้ต่างกันเลยที่ผ่านมา
ส่วน การใช้สื่อมวลชนนั้นก็ยิ่งคล้ายคลึงกันมาก สื่อมวลชนขวาจัดกลุ่มของพวกพันธมิตรนั้นกระทำการปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อ เหมือนกับการกระทำของสื่อมวลชนเยอรมันขวาจัดทั้งกลายกระทำในช่วงของพรรคนาซี ไม่มีผิดเพี้ยน หนังสือ Mein Kempt ของฮิตเลอร์ เป็นคัมภีร์ของพวกนาซี พอ ๆ กับการจัดรายการโทรทัศน์ของ ASTV สื่อมวลชนที่นิยมนาซีกลายเป็นสื่อมวลชนที่หลงเหลืออยู่หลังการครองอำนาจของ ฮิตเลอร์ ที่เหลือถูกไล่ล่าออกนอกประเทศหรือถูกจับกุมคุมขังเป็นนักโทษการเมืองไปสิ้น หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนสีแปรธาตุไปรับใช้นาซีแบบเดียวกับสื่อมวลชนไทยยุคนี้ ไม่มีผิดเพี้ยน
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.