Tuesday, August 11, 2009

แม่ผมและแม่ของคุณ กับแม่ของอำมาตย์

แม่ผมและแม่ของคุณ กับแม่ของอำมาตย์
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
11 สิงหาคม 2552



แม่ผมรักประชาธิปไตย เกลียดทหารเผด็จการ และมีโอกาสเห็นข้อเสียของเผด็จการทหารในไทย ทั้งในเรื่องความรุนแรงและการคอร์รัปชั่น อีกทั้งแม่ผมรู้จักเส้นแบ่งในหน้าที่ระหว่างหน้าที่สาธารณะกับความเห็นส่วนตัว ทั้งๆ ที่แม่ผมไม่เคยถือตำแหน่งสำคัญอะไร แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของพวกอำมาตย์” ได้ประโยชน์กับเผด็จการทหาร ออกหน้าออกตาไปสนับสนุนแก๊งอันธพาลการเมืองที่ทำลายประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญปี ๔๐ และมีพฤติกรรมรุนแรงเหมือนโจรกลางกรุงเทพฯ นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา



วันนี้พวกอำมาตย์เปื้อนเลือดประโคมข่าวเรื่อง"แม่ของพวกอำมาตย์" เพื่อสนับสนุนการทำลายประชาธิปไตย และเพื่อการกดขี่ให้คนจน “รู้จักพอเพียงในความจน” แทนที่จะพัฒนาฐานะชีวิตผ่านการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในสังคม หรือการรับสวัสดิการอันชอบธรรมจากรัฐบาลเมื่อตกยากลำบาก


พวกอำมาตย์อาจสับสนว่าใครเป็นแม่ของตนเอง เพราะชอบเรียกคนที่ไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดว่า “แม่” แต่ผมไม่สับสนว่าใครเป็นแม่ผม และผมเชื่อว่าคุณคงไม่สับสนเช่นกัน

แม่ผมเป็นคนเรียบง่าย ไม่สนใจที่จะรวยเกินความจำเป็น และเป็นคนที่มองว่าทรัพยากรของสังคมควรแบ่งให้พลเมืองทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเพื่อความเป็นธรรม แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของพวกอำมาตย์” ไม่เคยรู้จักพอ ทั้งเพชร ทอง หุ้น เงิน กอบโกยโดยไม่มีวันสิ้นสุด นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา

แม่ผมเป็นคนที่ไม่อยากให้ใครมายอ ไม่อยากได้ยศศักดิ์ แต่อยากให้ลูกและเพื่อนรัก เมื่อแก่แล้ว แม่ผมก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้วยศักดิ์ศรี แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของพวกอำมาตย์” นั่งรอให้คนชมทั้งวันทั้งคืน ไปไหนก็แสวงหายศหรือปริญญาเพิ่ม ไม่แน่ใจว่ามีมนุษย์คนใดรักจริงโดยไม่มีอะไรแอบแฝง และที่น่าสงสารคือหลงตนเอง นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา และระบบของเขาทำลายความเป็นมนุษย์ของเราทุกคน

แม่ผมเป็นคนรักสงบ ไม่ชอบอาวุธปืนหรือสงคราม แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของอำมาตย์” เอะอะจะจับปืนยิงคนมุสลิมในภาคใต้ หรือกระตือรือร้นที่จะปลุกความรุนแรงของลูกเสื้อชาวบ้านในเหตุการณ์ ๖ ตุลา นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา

แม่ผมพยายามสั่งสอนผมให้เป็นคนดี ถ้าผมไม่ดีก็ไม่ใช่ความผิดเขา อีกทั้งแม่ผมไม่เคยอ้างว่าเขาเป็น “แม่แบบอย่าง” แม่ผมเป็นคนพูดตรงไม่โกหก ถ้าผมทำอะไรที่แม่มองว่าไม่ดี ผมจะถูกวิจารณ์ และเคยถูกวิจารณ์ ไม่มีการปกป้องความผิดของผมเพราะเพียงเป็นลูก แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของพวกอำมาตย์” ที่ยอมให้อำมาตย์ยอว่าเป็น “แม่แบบอย่าง” มีลูกที่มีพฤติกรรมไม่ดี และ “แม่ของพวกอำมาตย์” ไม่เคยออกมาวิจารณ์เลย ได้แต่สนับสนุนและปกป้อง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะ “แม่”พวกอำมาตย์ บอกว่าลูกชายจะต้องเป็นผู้สืบทอดกองมรดกของตระกูล ด้วยสาเหตุสายเลือดเท่านั้น แต่ไม่คำนึงถึงศีลธรรม ความสามารถ และเหตุผลแต่อย่างใด

แม่ผมรักประชาธิปไตย เกลียดทหารเผด็จการ และมีโอกาสเห็นข้อเสียของเผด็จการทหารในไทย ทั้งในเรื่องความรุนแรงและการคอร์รัปชั่น อีกทั้งแม่ผมรู้จักเส้นแบ่งในหน้าที่ระหว่างหน้าที่สาธารณะกับความเห็นส่วนตัว ทั้งๆ ที่แม่ผมไม่เคยถือตำแหน่งสำคัญอะไร แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่พวกอำมาตย์” ได้ประโยชน์กับเผด็จการทหาร ออกหน้าออกตาไปสนับสนุนแก๊งอันธพาลการเมืองที่ทำลายประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญปี ๔๐ และมีพฤติกรรมรุนแรงเหมือนโจรกลางกรุงเทพฯ นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา

แม่ผมมองว่าถ้าใครในสังคมไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยที่ดีพอหรือมีมาตรฐาน คนอื่นทุกคนไม่มีสิทธิ์ที่จะมีบ้านสองหลัง แม่ของคุณก็คงไม่ต่าง แต่ “แม่ของอำมาตย์” ไม่ได้เพียงแต่มีบ้านหลายหลัง แต่ยังมีขนาดใหญ่ยังกับวัง ทั้งๆ ที่พลเมืองไทยจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัยที่เป็นมาตรฐาน แล้วยังมาเสนอให้คนอื่น “พอเพียง”!! นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา ในอนาคตเราคงต้องยึดบ้านใหญ่ยังกับวังทั้งหลาย มาเป็นบ้านพักคนชราของพลเมืองทั้งชาติ เพื่อแสดงความเคารพรักกับคนที่สร้างสังคมจริงๆ

แม่ผมชอบทำงานบ้านเอง บางช่วงในชีวิตอาจมีคนมาช่วยสักคน แต่โดยทั่วไปมองว่าทุกคนควรทำงานธุระของตนเอง ไม่เอาเปรียบใคร ในยุคก่อนๆ แม่ผมชอบถ่ายรูปชาวนาแถวรังสิตที่ไถนาด้วยควาย เพราะสมัยนั้นไม่มีเครื่องจักร แต่แม่ผมเข้าใจดีว่างานไถนาหรืองานของเกษตรกรคนจน เป็นงานหนักมาก ถ้ามีอะไรที่ลดภาระงานก็จะดี แม่ของคุณคงไม่ต่าง แต่ “แม่ของอำมาตย์” ไม่เคยทำงานเอง มีคนรับใช้เป็นฝูง แล้วมาเสนอว่าเกษตรกรควรกลับไปใช้ควายไถนา อย่างนี้เขาเรียกว่าอะไร? อย่างนี้ต้องยกย่องด้วยหรือ? นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา

แม่ผมเป็นคนขี้อาย แต่ก็พูดจากับคนแปลกหน้าด้วยมารยาท แม่ของคุณคงไม่ต่าง แม่ของพวกเราส่วนใหญ่ฟังภาษาโบราณไม่ออก แต่ “แม่ของอำมาตย์” ไม่ยอมให้คนอื่นพูดภาษาไทยง่ายๆ กับตนเอง ทุกคนถูกสั่งให้ขุดภาษาโบราณขึ้นมาใช้ เหมือนกับว่า เวลาใช้ภาษาที่คนฟังไม่เข้าใจก็จะมองว่าตนเป็นเทพเจ้า หรือมองข้ามความจริงเกี่ยวกับตนเอง นี่คือแม่ “แบบอย่าง” ของพวกเขา

ที่ผมเขียนเกี่ยวกับแม่ผมหรือแม่ของคุณ ไม่ใช่เพื่อยกย่องเลย เพราะถ้ายกย่องก็คงถูกแม่ต่อว่าอย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อนำแม่ของเรามาสร้างความชอบธรรมกับสิ่งที่ผมหรือคุณทำเลย เพราะสิ่งที่คนเสื้อแดงทำมีความชอบธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องแอบอ้างใคร

บทความสั้นๆ นี้ เป็นแค่การพูดอะไรที่เป็นความจริงง่ายๆ ความจริงเกี่ยวกับแม่ของพวกเรา ไม่มีอะไรพิเศษ เปรียบเทียบกับแม่ของพวกอำมาตย์ ซึ่งผมก็ไม่ได้เจาะจงบอกว่าเป็นใคร เพราะพวกอำมาตย์ชอบคิดว่าคนที่ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดนั้นเป็นแม่ของพวกเขา และยังยัดเยียดมาให้เป็นแม่ของพวกเราอีกด้วย

เอาเป็นว่าที่ผมเขียนมานี้เป็นแต่เรื่องสมมุติ เพราะพวกอำมาตย์พยายามสมมุติให้ใครซักคนมาเป็นแม่ของพวกเขา และสมมุติให้เป็นแม่ของพวกเราอีกต่างหาก แต่ถ้าเราพูดความจริง เราจะโดนคดีกฎหมายหมิ่นทันที และคนที่โดนกฎหมายหมิ่นไม่สามารถแก้ตัวในศาลว่า “พูดความจริง” เพราะการพูดความจริงไม่ได้ปกป้องเราจากการถูกตัดสินว่า “ผิด” ในแง่ของกฎหมายอำมาตย์

สรุปแล้วกฎหมายหมิ่นที่พวกอำมาตย์ทั้งหลายรักจัง เป็นกฎหมายที่บังคับให้พลเมืองพูดเท็จ และทุกวันนี้อะไรๆ ที่เกี่ยวกับ “แม่แห่งอำมาตย์” ที่ปรากฏให้เห็น ก็ล้วนแต่เป็นเท็จ แต่เราก็รู้ใช่ไหม?

สังคมอะไรที่บังคับให้คนพูดเท็จ? สังคมอะไรลงโทษคนที่พูดจริง? สังคมอะไรที่เชิดชูคนคนหนึ่งขึ้นมาเป็น “แม่แห่งอำมาตย์” หรือ “แม่แบบอย่าง” โดยไร้เหตุผลไร้สติปัญญา และเพื่อปกป้องเผด็จการและความเหลื่อมล้ำ??

ถึงเวลายุติเรื่องวันแม่ของพวกอำมาตย์ แต่ที่สำคัญคือ ถึงเวลาที่เราจะมีประชาธิปไตยแท้ และความเป็นธรรม หรือความเท่าเทียมในสังคม ซึ่งแปลว่าต้องยกเลิกอำมาตย์ และยกเลิกระบอบแบบแผนตามจารีตโบราณอันไม่สอดคล้องกับกาลสมัย และเป็นอุปสรรคของประชาธิปไตย

ประชาชนจงเจริญ!!!! ประชาธิปไตยแท้จงเจริญ!!!!

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 8/11/2009 03:57:00 หลังเที่ยง



Links to this post
สร้างลิงก์

บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก