ใครจะล้มเจ้า?
โดย จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา คอลัมน์ “ผมเป็นข้าราษฎร” หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์วิวาทะ Thai Red News ปีที่ 1 ฉบับที่ 30
27 ธันวาคม 2552
สมัยก่อนเขาใช้ข้อกล่าวหาคอมมิวนิสต์มาใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง เพื่อทำลายศัตรูคู่แข่งหรือคนที่ตัวคิดว่าเป็นภัยคุกคาม เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนไปใช้ข้อกล่าวหาว่าจะ “ล้มเจ้า” มาทำลายแทน
เพื่อสื่อสารว่ามีคนคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ขึ้นในเมืองไทย
แล้วก็แจ้งความ กล่าวหา ส่งสำนวน และสั่งฟ้องกันให้ชุลมุนไป ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เมื่อมวลชนใส่เสื้อเหลืองปรากฏตัวขึ้นอย่างดุดันก้าวร้าว มุ่งโค่นล้มรัฐบาลของฝ่ายประชาชนอย่างเป็นระบบและมีแรงสนับสนุนที่ดียิ่ง
จนต่อมามีการจับกุมคุมขังเกิดขึ้นหลายสิบรายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศตามการจุดชนวนนั้น
โชคดีที่การรณรงค์ของระบอบคอมมิวนิสต์ในระดับโลกสิ้นสุดลงไปพร้อมกับสงครามเย็น แต่น่าสนใจว่าข้อหาคอมมิวนิสต์ใหม่คือ “ล้มเจ้า” จะไปจบลงตรงไหน เนื่องจากเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน กรณีคอมมิวนิสต์มีที่มาของเรื่องที่ชัดเจนและเป็นปรากฏการณ์ในหลายประเทศทั่วโลก แต่กรณีหลังขาดทั้งความชัดเจนทางกฎหมายและมีลักษณะครอบงำทางสังคมจนไม่ต้องถามเหตุผล
ที่สำคัญคือเป็นปรากฏการณ์เฉพาะตัวของเมืองไทยที่สังคมโลกกำลังจับตามองอย่างสงสัย
สถาบันพระมหากษัตริย์มีอยู่ในหลายประเทศ แต่ไม่ปรากฏว่าประเทศใดยกเรื่องนี้ขึ้นมาไล่ล่าขับเคี่ยวกันอย่างนี้
หลายประเทศไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแปลว่ากระไร ยกเว้นฝรั่งเศส ซึ่งก่อการปฏิวัติประชาชนโค่นล้มกฎหมายประเภทนี้โดยตรง เราจึงรับมรดกเก่าๆ ของเขามาเรียกกันว่า les majesty
แต่เอาเถิด เมื่ออุตส่าห์ขุดค้นมาใช้งานกันถึงขนาดนี้แล้ว ตั้งวงคุยกันสักหน่อยไม่เสียหายอะไรไปมากกว่านี้หรอกครับ
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสถาบันพระมหากษัตริย์ของทุกประเทศทั่วโลกคือ พระราชอำนาจ
พระราชอำนาจนั้นมีหลายทาง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอำนาจทางการเมือง ซึ่งรวมทั้งพิธีการและงานเฉพาะกิจอย่างสงคราม อำนาจทางสังคม และอำนาจทางวัฒนธรรม ส่วนอำนาจทางเศรษฐกิจนั้นไม่มีมากนักในสถาบันกษัตริย์ของโลก
ข้อกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจึงแปลว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำการที่ถือว่าหมิ่นอานุภาพอันล้นพ้นและยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน
การหมิ่นพระราชอำนาจจึงเป็นหัวใจของเรื่อง
แต่คนที่มุ่งทำลายศัตรูเพื่อหวังผลทางการเมือง เขานำข้อกล่าวหาเรื่องการหมิ่นพระราชอำนาจมาขยายจนเป็นการล้มเจ้าหรือทำให้คนทั่วไปคิดไปถึงขนาดนั้น
คนละเรื่องกันแท้ๆ ก็เอามาคลุกเคล้ากันจนเกิดความเสี่ยงต่อสถาบันเอง ตามคำโบราณว่าเสี่ยงพระมหากษัตริย์
ข้อกล่าวหาว่า “ล้มเจ้า” หมายความว่ามีขบวนการอย่างเป็นรูปธรรมที่ทำงานยึดโยงกันเป็นหมู่คณะ มีแผน มีหน่วยปฏิบัติการอะไรต่างๆ มากมาย แม้กระทั่งอาวุธยุทโธปกรณ์ ฟังดูน่ากลัวยิ่งนัก
แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหา ถูกไล่ล่า และถูกจับกุมแต่ละราย กลับเป็นบุคคลเดี่ยวๆ ที่กระทำการต่างกรรมต่างวาระกันอย่างชัดเจนไม่มีความเชื่อมโยงกัน
หากขบวนการอย่างนี้มีจริง และผู้ที่มีหน้าที่ที่อ้างความจงรักภักดีทั้งหลายไม่นำออกมาให้สังคมได้เห็นเป็นประจักษ์ ก็เท่ากับว่าผู้ที่ขยันกล่าวหาคนอื่นนั่นเองที่เป็นตัวการสำคัญในเรื่องนี้ เพราะละเว้นไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญ
ส่วนข้อเสวนาเรื่องพระราชอำนาจนั้น มีความสำคัญต่ออนาคตของบ้านเมืองอย่างที่สุด เพราะจะนำไปสู่ทางออกทางการเมืองหรือจะสร้างปัญหายิ่งไปกว่านี้ก็ได้
พระราชอำนาจมิใช่สิ่งที่ทรงใช้โดยพระมหากษัตริย์เท่านั้น ยังมีผู้ที่ใช้พระราชอำนาจอย่างที่เรียกว่าทำหน้าที่ในพระปรมาภิไธยอีกเป็นจำนวนมากในเมืองไทย เช่น ตุลาการผู้ขึ้นบัลลังก์ทำหน้าที่ “ศาล” ผู้มีอำนาจโยกย้ายข้าราชการระดับสูง องคมนตรี เป็นต้น
แม้กระทั่งพระบรมวงศานุวงศ์และคนทั่วไปที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้แทนพระองค์ในบางกรณี ก็ใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อยู่ในห้วงเวลานั้นๆ
รวมความแล้วพระราชอำนาจของกษัตริย์ถือเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจรัฐ
อำนาจรัฐคือเงื่อนไขสำคัญที่บอกเราว่า จะเขียนรัฐธรรมนูญและบังคับใช้รัฐธรรมนูญอย่างไรให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในรัฐ
รัฐธรรมนูญคือสิ่งที่ระบุว่าคนทุกๆ คนในรัฐนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เช่น กษัตริย์กับราษฎร เจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน ข้าราชการทหารกับข้าราชการพลเรือน สิทธิและหน้าที่ของปัจเจกบุคคล เป็นต้น
ข้อเสวนาในเวลาอันควรเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดได้ จึงต้องเกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะสามปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดการกล่าวอ้างพระราชอำนาจหรือแม้แต่สงสัยกันว่าแอบอ้างพระราชอำนาจบ่อยครั้งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
จริงหรือปลอมก็ถือว่ามีผลกระทบในทางลบทั้งนั้น เพราะการเมืองที่แล้วมาสามปีเป็นแบบ “ขวาพิฆาตประชาธิปไตย” ใครรับอุปถัมภ์ไว้เป็นซวยทุกคน ไม่ว่าหน้าไหนทั้งนั้น
จึงขอเตือนมายังคนที่ชอบกล่าวหาคนอื่นเรื่อง “ล้มเจ้า” ว่า หากเจตนาคือการรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ จงหยุดการกระทำเช่นนี้ในทันที แต่ถ้าเจตนาเร้นลับคือการทำให้สถาบันฯ เสียหาย ก็ขอให้คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ พิจารณาโดยใช้สติปัญญาอย่างแยบคาย หรือ โยนิโสมนสิการ
ขนาดยอมให้โจรมาจัดงานที่เรียกว่ามหามงคล จะช่วยเสริมหรือทำให้ทรุด ใช้พุทธปัญญากันเอาเอง.
ปกป้องสถาบัน?-นับแต่สนธิ ลิ้มทองกุล และขบวนการเสื้อเหลืองใช้สถาบันเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อชัยชนะของตนเอง และอ้างว่าปกป้องสถาบัน ทั้งกล่าวหาว่าทักษิณและฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยต้องการล้มสถาบัน ก็ทำให้กระทบกระเทือนต่อเบื้องสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
v
v
v
ขอเป็นกำลังใจให้คุณจักรภพครับ ที่ถูกกระทำโดยวิธีสกปรกและน่าเกลียดอย่างสิ้นดี ขอให้คุณยึดมั่นอุดมการณ์ที่มั่นคงไว้นะครับ ผมเชื่อว่าสักวัน ต้องเป็นวันของพวกเรา
ReplyDeleteถุย
ReplyDeleteขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยสู้กับไอ้เศรษฐีขี้โกงและพวกทุนสามานย์ชาติชั่ว สักวันคนไทยต้องก้าวข้ามไอ้พวกขี้โกงครับ
ReplyDeleteหาวววววววว เบื่อจัง ใครเอาไอ้นี่ไปลงนรกที
ReplyDeleteคำว่าชาติไทย
ReplyDeleteต้องประกอบไปด้วย
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
แล้วถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์
กรูขอถามหน่อย
แล้วเขาจะเรียกว่าชาติไทยได้อย่างไร?
หากคุณไม่สามารถทำเพื่อคนไทยได้อย่างที่พระมหากษัตริย์ทรงทำได้
พวกมรึงก็อย่าได้เห่า
แน่จริง
ทำให้คนไทยทั้งชาติรักและเคารพมรึงด้วยใจจริง
โดยที่มรึงไม่ต้องเอาเงินมาจ้างดิ
กรูถึงจะเชื่อมรึง
This comment has been removed by the author.
ReplyDelete“ไพร่ผ่านฟ้า” VS “อำมาตย์มอนเตฯ”
ReplyDeleteถ้ายอมรับความจริง และรู้จักยั้งคิดกันสักนิด เชื่อแน่ว่าคนเสื้อแดงจะต้องมองเห็นธาตุแท้ ความเห็นแก่ตัวของ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” อย่างล่อนจ้อน เพราะหลังจากปลุกระดมให้คนเสื้อ แดงออกมาชุมนุมเพื่อตัวเอง เขากลับสั่งให้ลูกไพร่ เมียไพร่ และญาติโกโหติกาไพร่ทั้งหลายออกนอกประเทศทันทีเพื่อความปลอดภัย แล้วปล่อยให้ 'ไพร่เสื้อแดง' ชุมนุมตากแดดตากฝน นอนจมกองขี้กองเยี่ยวของตัวเองอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ
แต่ที่ปวดใจไปกว่านั้นคือ ภาพที่นช.ทักษิณควงแขน 'ลูกไพร่' ทั้งสามคนเดินอ้อล้อคลอเคลียชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะแห่งหนึ่งใน สาธารณรัฐมอนเตเนโกรอย่างสบายใจ โดยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากดูไบไปถึงเมืองติวาต เมืองริมทะเลของมอนเตเนโกร เมื่อวันที่ 13 มี.ค.
เสร็จแล้วก็พากันไปท่องเที่ยวอย่างสบายอกสบายใจ พร้อมกับพากันไปเดินช้อปปิ้ง และทัวร์ เดลต้า ซิตี้ จากนั้นตกค่ำก็มีการดื่มด่ำดินเนอร์กันอย่างหรูหราอยู่ในโรงแรมแอสโทเรีย
หนังสือพิมพ์ "เดลี่ เอ็กซ์เพรส" ของมอนเตเนโกรได้รายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ว่า นช.ทักษิณได้ตัดสินใจที่จะซื้อเกาะ"สเวตติ นิโคลา"นอกชายฝั่งเมืองบุดวา เมืองท่องเที่ยวหลักของมอนเตเนโกร ริมทะเลเอเดรียติก ฉายาเกาะ"ฮาวาย" ภายหลังที่ธนาคารเพอร์วา บังก้า เซอร์เน โกเร่ ได้ประกาศประมูลขายเกาะดังกล่าว เป็นมูลค่า 28 ล้านยูโรหรือประมาณ 1,288 ล้านบาท โดย นช.ทักษิณเป็นหนึ่งในผู้สนใจซื้อเกาะดังกล่าวจากการเปิดขายเกาะแห่งนี้
เพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ยื่นคำร้องไปยังกระทรวงมหาดไทยให้เปิดเผยข้อมูลว่า ใครเป็นผู้ตัดสินใจ เนื่องจากเป็นที่ชัดเจนว่า คุณสมบัติของนักโทษหนีคดีผู้นี้ไม่เข้ากับเกณฑ์การให้สัญชาติตามกฎหมายสิทธิ ความเป็นพลเมืองของมอนเตเนโกร
เช่นเดียวกับ “นายแอนดริจา โพโพวิก” หัวหน้าพรรคลิเบอรัล ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมอนเตเนโกร ได้ขอให้กระทรวงต่างประเทศและมหาดไทยของมอนเตเนโกรตรวจสอบว่า นช.ทักษิณได้สัญชาติมอนเตเนโกรด้วยวิธีใด เพราะเป็นที่รู้กันว่าบุคคลต่างชาติที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปีหรือมากกว่านั้น ไม่สามารถที่จะได้รับสถานะการเป็นพลเมืองของมอนเตเนโกรได้ขณะที่ยังมีคนอีก หลายพันคนที่อาศัยอยู่ในมอนเตเนโกรและถือเป็นบ้านเกิดของพวกเขา แต่กลับไม่ได้รับสถานะพลเมือง เพราะอุปสรรคในขั้นตอนของราชการ
นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวยังทำให้มีพลเมืองไทยได้เฟซบุ๊กติดต่อไปยังผู้มีอำนาจและผู้มี บทบาทในแวดวงการเมืองของมอนเตเนโกร เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว และความพยายามนี้ก็เป็นผลเมื่อ “นายเนบอจซา เมโดเจวิช “หัวหน้าพรรคเคลื่อนไหวเพื่อความเปลี่ยนแปลง หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอันดับสองได้ตอบข้อความทางเฟซบุ๊กของชาวไทยผู้หนึ่งที่ ส่งข้อความไปสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายเมโดเจวิชบอกว่า
“... ทุกวันนี้นายกรัฐมนตรีของมอนเตเนโกรก็ก่ออาชญากรรมในอิตาลีเช่นกัน แต่เพราะเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการเมืองทำให้อัยการของอิตาลีไม่สามารถดำเนิน คดีกับเขาได้ นายยูคาโนวิชเปิดประเทศของเรา (มอนเตเนโกร) ให้กับอาชญากรจำนวนมากที่มีพฤติกรรมเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมในฐานะของผู้นำพรรคการเมืองที่สนับสนุนการไม่ประนีประนอมกับองค์กร อาชญากรรมใดๆ เพราะ … นั่นจะหมายถึงการคอร์รัปชั่นที่เพิ่มขึ้น เรากำลังจะประชุมสภากันใน 2 วันนี้ เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะความเกี่ยวพันของรัฐบาลกับองค์กรอาชญากรรม ทั้งนี้ประเด็นหนึ่งที่เราจะหยิบยกขึ้นในการประชุมจะรวมถึง การเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย...”
ไอไพร่ชั่วหน้าเหลี่ยมหัวเถิกเกิดมาหนักแผ่นดินไทย
ReplyDeleteไอไพร่เสื้อแดงก็หน้าโง่เป็นเหยื่อของไอไพร่หัวเถิก
ช่าย ประเทศไทยต้องมี ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ReplyDeleteแล้วพวกคุณเอา จิตใต้สำนึกตรงนี้ไปไว้ไหน
หรือมีคำใหม่ ว่า ชาติ ศาสนา ทักษิณ
ประเทศไทยไม่น่ายกเลิกระบอบการปกครองเลย
เพราะทำให้คนไทยเดี๋ยวนี้กลายเป้นวัวลืมส้นตีนไปแล้ว
เห็นเป็นระบอบประชาธิปไตยหน่อย ก้เรียกร้องสิทธิกันใหญ่โต
รู้ยังงี้ไม่น่าให้ พ่อร.5 ยกเลิกระบอบไพร่เลย
เพราะทุกวันนี้มันไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน
กลับจะไปล้มราชวงศ์ของท่านพ่อ ร.5อีก
ขอให้มันที่คิดร้ายต่อพระมหากษัตริย์จึงมีแต่ความพินาศ