Sunday, September 6, 2009

เนื่องจากในหลวงมีรับสั่งว่าบ้านเมืองกำลังจะล่มจม

เนื่องจากในหลวงมีรับสั่งว่าบ้านเมืองกำลังจะล่มจม
เขียนโดย เจ้าพ่อ USA
วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2009 เวลา 09:31 น.
“เนื่องจากในหลวงทรงมีรับสั่งว่า บ้านเมืองกำลังจะล่มจม! โดยเฉพาะในระยะนี้ ไม่รู้จะไปทางไหน? ไม่รู้จะไปต่อได้อย่างไร ทรงรู้สึกเป็นห่วงประเทศไทย และทรงตรัสว่าประเทศไทยกำลังจะล่มจม! แต่พวกท่าน (คณะที่เข้าเฝ้า) จะทำ...ไม่ให้ล่มจมได้! แต่ต้องช่วยกันพัฒนา ต้องช่วยกันสร้างให้ดียิ่งขึ้น” หลังจากที่ผมฟังพระราชดำริของท่านแล้ว ผมรู้สึกแปลกใจกับตัวเอง แต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีใครรู้สึกเช่นเดียวกันกับผมหรือเปล่า? เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสนั้น แสดงเหมือนกับว่าพระองค์ทรงมีความห่วงใยต่อชาติบ้านเมือง และก็เหมือนดั่งว่า สิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีส่วนมาจากพฤติกรรมของพระองค์เองเลย? มันยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับตัวผมมาก เหมือนพระองค์ไม่ได้รู้สึกว่าพระองค์ได้ทรงทำอะไรลงไปบ้าง มันเป็นเรื่องที่แปลก...แปลกมาก เมื่อสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำลงไปแล้ว...และด้วยระยะเวลาที่นานมากแล้ว แต่พระองค์กลับจะมาเพิ่งจะรู้สึกองค์ว่า...พระองค์เป็นห่วงประเทศชาติมากเหลือเกิน!


ท่านพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพรักเป็นอย่างยิ่ง ในหลวงในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย พระองค์ใช้อำนาจของพระองค์ ที่เป็นอำนาจเหนือกว่าประชาชนและกฎหมายที่ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เจริญแล้วเขาจะไม่ยอมให้อำนาจพระมหากษัตริย์เหนือกว่าอำนาจของประชาชนอย่างเด็ดขาดยกเว้นประเทศไทยซึ่งก็นับว่าการเมืองในประเทศจึงมีการล้มลุกคลุกคลานอย่างต่อเนื่อง การที่ในหลวงยอมรับทหาร ที่เข้ามายึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย. 2549 นั้น พระองค์ย่อมรู้ดีว่า การยึดอำนานั้นเท่ากับทำลายระบอบ และทำลายระบบที่เป็นกลไกของสังคมที่เจริญแล้ว

การยึดอำนาจของทหารนั้น คณะทหารเข้ามายึดด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ว่าเจตนาของคณะทหารนั้น มีความโปร่งใสและยุติธรรมและพร้อมเพรียงที่พระองค์ทรงยอมรับ และข้ออ้างของทหารที่เข้ามาปฎิวัตินั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะต้องยึดอำนาจเอาไว้ เพราะตราบใดที่สถาบันตุลาการในประเทศยังเข้มแข็งและยังงอยู่ภายใต้พระราชอำนาจของพระองค์เอง การที่คณะทหารเข้ามาทำการปฎิวัตินั้น นอกจากยึดอำนาจของประชาชนไปแล้ว คณะทหารชุดนั้นยังได้ยึดอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามไปด้วย

จากหลักฐานปรากฎว่าคณะทหารชุดนี้ออกกฎหมาย และตั้งคณะกรรมการ องค์กรอิสระต่างๆ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของพระมหากษัตริย์ซึ่งจำเป็นต้องมีการลงพระปรมาภิไทยตามพระราชบัญญัติที่ได้กำหนดไว้ย่อมถือว่าคณะทหารชุดนี้มีอำนาจเหนือกว่าพระมหากษัตริย์ แต่พระมหากษัตริย์ก็ยังยินยอมในพฤติกรรมของทหารคณะนี้ จากหลักฐานตามข้ออ้างที่ได้ปรากฏซึ่งไม่มีหน่วยงานใดที่เป็นหน่วยงานใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น สำนักพระราชวัง หรือคณะองมนตรีที่ไม่มีใครลุกขึ้นมาท้วงติง เพื่อเป็นการปกป้องภาพพจน์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และนอกจากนี้พระองค์ยังสู้อุตส่าห์ยอมรับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ว่าสิ่งที่คณะที่ทหารชุดนี้เข้ามาทำการปฏิวัตินั้น ไม่มีความผิดใดๆ ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือทุจริตก็ตาม ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศไม่สามารถเรียกร้องหรือให้มีความรับผิดชอบใดๆ ในการกระทำต่างๆ ในคณะปฎิวัติชุดนี้ได้ทำเอาไว้

ดังนั้น เปรียบเสมือนพระองค์ทรงปล่อยให้โจรเข้ามาปล้นในบ้าน ยึดเอาทรัพย์สินเงินทองของคนในบ้านซึ่งหมายถึงประชาชนในประเทศ แล้วพระองค์ก็ทรงลงพระนามออกกฎหมาย ว่าโจรคณะนี้ที่เข้ามาปล้นในบ้าน เป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีความผิดใดๆ ผมอยากจะถามพี่น้องประชาชน เพื่อนร่วมชาติว่า ตลอดเวลาที่ประเทศชาติของเรา อยู่ภายใต้อำนาจคณะปฎิวัตินั้น อำนาจทั้งหลายทั้งหลายทั้งปวงขึ้นอยู่กับอำนาจคณะปฎิวัติแต่เพียงผู้เดียว การตัดสินคดีความต่างๆ ของคณะตุลาการ ศาลต่างๆ ก็อยู่ภายใต้การสั่งการ และความต้องการของคณะปฎิวัติ ซึ่งหมายถึงคณะปฎิวัตินั้นยึดอำนาจทั้งหลายทั้งปวงยึดเอาอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว ตลอดจนได้ทำการกลั่นแกล้งและแก้แค้นกลุ่มคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามตามหลักฐานที่ปรากฏในการตัดสินคดีความต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย จนทำให้ชาวต่างชาติหัวเราะเยาะ และเกิดความสมเพชเวทนาต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินคดีที่นายกสมัครออกรายการทีวีทำอาหาร จนมีการกลั่นแกล้งเอาพจนานุกรมมาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสิน แต่ไม่ได้เอาหลักของกฎหมายมาตัดสินจนทำให้คุณสมัคร สุนทรเวช ขาดคุณสมบัติจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการที่จะได้รับการข่าวสาร และสิทธิอื่นๆ โดยการสั่งการให้สื่อสารมวลชนบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จากความเป็นจริง จนทำให้คนไทยกลุ่มหนึ่งรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มคนเสื้อสีแดง ซึ่งไม่สามารถจะทนเห็นพฤติกรรมชั่วๆ ของคณะทหาร และพรรคการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมกับกลุ่มคนที่ประกาศตัวเองว่าเป็นผู้ต้องการอำนาจประชาธิปไตย แต่มีพฤติกรรมที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยและทำลายกฎหมาย ตามหลักฐานที่ปรากฏ เช่นการไปยึดสถานที่ราชการ และสนามบินต่างๆ จนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวไทยและชาวต่างชาติให้ปรากฏ ความเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงที่ปรากฏนั้น คนไทยในประเทศส่วนใหญ่ที่ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง เห็นว่า คณะทหารที่ปฎิวัติและพันธมิตรคือกลุ่มคนที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย และทำลายกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ว่าในหลวงคอยให้การสนับสนุนคณะทหาร คณะปฎิวัติ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการนำองคมนตรีมาเป็นนายกฯ หรือนำอดีตนายกฯ กลับมาเป็นองคมนตรี ดูเหมือนคณะองคมนตรีคณะนี้มีความผูกพันกับคณะปฎิวัติและสถาบันพระมหากษัติย์ ตลอดจนการอ้างอิงของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตร ว่าตัวเองได้รับการชื่นชม และได้รับการพระราชทานผ้าพันคอสีฟ้า ตลอดจนปรากฎหลักฐานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เสด็จไปเป็นประธานในงานศพ ของกบฏที่เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญา แต่พระองค์กลับยกย่องและสรรเสริญว่าเป็นวีรสตรี ของชาติ

การกระทำของพระองค์เป็นการเลือกข้างและแบ่งแยกความคิดของประชาชนในประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่จึงเสื่อมความศรัทธาที่มีอยู่ การกระทำและพฤติกรรมต่างๆ ที่ปรากฏให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีสติสัมปชัญญะได้เห็นพฤติกรรมของแต่ละคนแต่ละกลุ่มนั้น มันเป็นหลักฐานที่ปรากฏว่าตัวการที่ทำลายบ้านเมือง ให้ล่มจมนั้น ไม่ใช่ประชาชนคนใส่เสื้อสีแดง แต่ตัวการที่ทำลายบ้านเมืองให้ล่มจมอยู่ทุกวันนี้ ก็คือ การยอมรับทหารที่มาทำการปฎิวัติยึดอำนาจประชาชนและทำลายกระบวนการกฎหมายต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศ จนไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และน่าศรัทธาอีกต่อไป ตลอดจนการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่พระองค์ทรงลงพระนามสนับสนุนซึ่งหมายถึงโจรเข้ามาปล้นบ้านแล้วกลับไม่มีความผิด นอกจากนี้ยังกลับส่งเสริมกลุ่มพันธมิตรที่ทำลายกฎหมาย และปล่อยให้เป็นผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนได้รับการปูนบำเหน็จเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดนี้โดยพระองค์ทรงลงพระนามแต่งตั้งเองตลอดจนใช้วิธีการสกปรกที่สุด ที่นำพรรคการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคะแนนมาอันดับสอง เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขัดต่อประเพณีในระบอบประชาธิปไตยทั้ง ๆที่พระองค์ทรงเป็นพระประมุขในระบอบประชาธิปไตย

สรุปว่าความล่มจมของประเทศที่มีอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องมาเป็นห่วงหรือไม่ต้องมาขอร้องว่าพวกเราสามารถทำไม่ให้ล่มจมได้ เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้น มันก็มาจากการสนับสนุนของพระองค์ ที่กลับยอมรับวิธีการที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยแทนที่จะช่วยกันห้ามปรามทหารคณะนั้น แล้วแนะนำสั่งสอนชี้ให้เห็นความเสียหายและความแตกแยก และเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนนึกถึงผลประโยชน์ของคนในประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่เอาความต้องการของทหารมาเป็นหลัก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ประเทศชาติเกิดความล่มจม มันก็มาจากการกระทำของพระองค์เอง!!!!!!!!!!!!!!!!


ที่มา www.redthai.org

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.