ทำไมกฏหมายหมิ่นฯทำให้สังคมไทยปัญญาอ่อน by WDPress @ 2009-02-08 – 05:40:32
ทำไมกฎหมายหมิ่นฯเป็นสิ่งที่แย่และเลวทราม
ใจ อึ๊งภากรณ์
การที่ไทยมีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถือว่ามีไว้เพื่อเป็นการเล่นงานข่มขู่สิทธิเสรีภาพในการพูด และสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการอย่างโหดร้าย ผลกระทบคือเราไม่มีประชาธิปไตยที่เต็มใบและไม่มีมาตราฐานทางวิชาการในมหาวิทยาลัยของเราแบบที่นานาประเทศมีอยู่ โดยเฉพาะกรณีของผม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปฎิเสธจะขายหนังสือทางวิชาการของผมเกี่ยวกับการรัฐประหารปี2549ในร้านขายหนังสือของมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่พอ มหาวิทยาลัยยังได้เอาหนังสือผมส่งให้กับสันติบาล (ตามบันทึกของตำรวจ)
ผลที่ตามมาคือรัฐบาลได้สั่งฟ้องผม ลองนึกดูว่าจะมีผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานทางวิชาการของผมอย่างไร บรรยากาศที่น่ากลัวแบบนี้จะทำให้คุณภาพทางวิชาการเลวลงเพราะทุกคนเลี่ยงเมื่อพูดถึงเรื่องจริง เสี่ยงที่จะวิเคราะห์และการโต้แย้งอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับแวดวงวิชาการ คุณภาพการศึกษาในประเทศเราจึงด้อยพัฒนา และสอนให้เด็กกลัวที่จะคิดเองเป็น
คุณภาพการศึกษาแย่ๆแบบนี้เริ่มต้นมาจากชั้นประถมและเรื่อยมาจนถึงระบบการศึกษาขั้นสูง นักเรียนถูกสอนให้
เรียนด้วยการท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองและให้เขียนเรียงความประเภทบรรยาย ที่มีแต่ความเห็นด้านเดียว นักวิชาการปฎิเสธที่จะถกเถียง และไม่อ่านงานเขียนของคนที่มีความเห็นแตกต่างจากตัวเองจนการโต้แย้งจากนักวิชาการด้วยกันมาถือเป็นการทะเลาะส่วนตัว
ราชวงศ์ไทยถูกกล่าวว่าเป็น\"สุดที่รักของชาวไทยทั้งปวง\"ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่เราต้องเข้าใจว่าในสังคมไทยมีบรรยากาศแห่งความกลัวอันเนื่องมาจากกฎหมายหมิ่นฯ พร้อมกันกับการโปรโมทราชวงศ์อย่างบ้าคลั่ง
จนกษัตริย์ถูกยกย่องให้เป็นอัจฉริยะในทุกด้าน แถลงการณ์ทุกฉบับที่ออกมาจากกษัตริย์จะถูกแถลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับว่าเป็นคำสั่งสอนอันสูงสุดและกษัตริย์ได้ถูกอ้างว่าเป็น“บิดาของเรา” และเมื่อไม่นานมานี้ลูกจ้างทั้งของเอกชนและของรัฐถูกสั่งให้ใส่เสื้อเหลืองทุกวันจันทร์หรือใส่ดำทั้งปีเพื่อไว้ทุกข์ หลายๆคนได้เปรียบว่าเหมือนกับประเทศเกาหลีเหนือ รัฐแทรกแซงในชีวิตคนถึงขนาดว่าเราต้องใส่เสื้อสีอะไร
อีกหนึ่งตัวอย่างคือนโยบาย“เศรษฐกิจพอเพียง”เมื่อกษัตริย์กล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพียง เราทั้งหมดจะต้องยอมรับ
และชื่นชมโดยไม่มีคำถามใดๆ แต่เศรษฐกิจพอเพียงเป็นลัทธิทางการเมืองซึ่งสอนให้คน
พึงพอใจกับสถานะความยากจนของตัวเองและให้เลิกนึกถึงความเสมอภาค โชคดีที่ว่ามุมมองแบบล้างสมองเช่นนี้
ไม่ได้ผลนักในสังคมไทย เพราะสังคมซึ่งไม่มีการโต้แย้งทั้งด้านนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองอย่างเปิดเผยด้วยเหตุผล จะเป็นสังคมแห่งคนปัญญาอ่อนที่ด้อยพัฒนา แต่ในไทยแค่การวิจารณ์เศรษฐกิจพอเพียงนิดหน่อยถึงกับต้อง
โดนข้อกล่าวหาจากกฎหมายหมิ่นฯ
อะไรคือเป้าหมายของความพยายามทั้งหมดในการบังคับเรื่องโง่ๆกับประชาชน? มันเป็นการพยายามอย่างต่อเนื่อง
ที่จะควบคุมคนไทยส่วนใหญ่ไม่ให้แตกแถวคิดเองและเป็นมนุษย์ เราถูกชักชวนให้เชื่อว่ากษัตริย์มีอำนาจล้นฟ้า ในความเป็นจริงแล้วตามรัฐธรรมนูญ กษัตริย์ไทยเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่คนไทยถูกสอนให้เชื่อว่าเราอาศัยอยู่ภายใต้
“ระบบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแบบสมัยก่อน” เป็นการผสมระหว่างระบบศักดินาสมบูรณาญาสิทธิราชย์และกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญเอง ประชาชนต้องคลานกับพื้น
เมื่ออยู่ต่อหน้ากษัตริย์ แต่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้
คือกองทัพ ข้าราชการหัวเก่า และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่กษัตริย์ อย่างไรก็ตามกษัตริย์ก็ไม่ออกมาพูดอะไร
กองทัพได้ประกาศเสมอว่ากองทัพคือ“ผู้พิทักษ์กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ”แต่กองทัพไทยมีประวัติอันยาวนานในการก่อรัฐประหารและทำลายระบบประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์เป็นประมุข ตัวอย่างที่เห็นได้ดีคือการทำรัฐประหาร 19 กันยายน กองทัพได้หาวิธีที่จะให้การทำรัฐประหารมีความชอบธรรมด้วยการนำกษัตริย์มาอ้าง พันธมิตรฯ ก็เช่นกัน ใช้กษัตริย์อ้างความชอบธรรมในการก่ออาชญากรรม ศาลก็อ้างกษัตริย์ในการปิดปากประชาชนเพื่อทำอะไรโดยไม่มีความโปร่งใส
กฎหมายหมิ่นฯถูกใช้เป็นเครื่องมือของกองทัพและพวกอื่นๆ เช่นข้าราชการชั้นสูง ศาล และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่ไม่เคยชนะเสียงข้างมาก เพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง
แทนที่จะปกป้องกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ขณะนี้กฎหมายหมิ่นฯได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับปราบคนที่
วิจารณ์รัฐประหาร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายนิยมระบบกษัตริย์หรือฝ่ายนิยมสาธารณรัฐ
สรุปแล้วกฎหมายหมิ่นฯ ทำให้เราไม่มีสิทธิเสรีภาพ ไม่มีคุณภาพทางปัญญาในสถานที่ศึกษา ไม่มีความยุติธรรมในศาล
แต่การรณรงค์ล้างสมองแบบนี้เริ่มล้มเหลว ประชาชนหูตาสว่างขึ้น และกระบวนการนี้เกิดในช่วงที่กษัตริย์ชรา และอีกไม่นานก็จะสิ้นพระชนม์ ถ้ากษัตริย์เป็นที่รักและที่บูชาของประชาชนแล้ว
คงไม่มีใครสามารถอ้างว่าพระราชโอรสได้รับความเคารพรักแบบนี้ นี่คือสิ่งที่พวกทหาร พันธมารและประชาธิปัตย์กลัว คือเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมของเขากำลังอ่อนตัวลง เป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้ยินคนไทยทั่วไป
บ่นถึงการเมืองในปัจจุบันนี้และพูดว่า“เราทุกคนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” การวิจารณ์กษัตริย์ได้หนาหูขี้นมาก
ความชอบธรรมของสถาบันอาจจะเข้าสู่วิกฤติได้ในไม่ช้า เนื่องจากการกระทำของกองทัพและฝ่ายอื่นที่ร่วมกัน แต่เขายังมีความพยายามต่อไป เช่นการรณรงค์แบบรัฐตำรวจให้ไทยกลายเป็นชาติของเด็กขี้ฟ้อง
กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยส่วนมากจะมีเสถียรภาพและถูกตรวจสอบได้จากสาธารณะ ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่ากฎหมายหมิ่นฯของไทยไม่ใช่เป็นการนำเสถียรภาพมาสู่สถาบัน แต่เป็นการนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น
น่าเสียดายที่บรรยากาศแห่งความกลัวที่เกิดขึ้น และการเลือกข้างผิด (เลือกข้างเผด็จการ) ทำให้ภาคประชาชนเก่าหมดสภาพในการเป็นส่วนหนึ่งของประชาสังคมที่ขยายพื้นที่ประชาธิปไตย นักวิชาการหลายๆฝ่ายพิสูจน์ว่าหมดสภาพในการวิเคราะห์ความจริงอีก นี่คือยุคแห่งความโง่เขลาป่าเถื่อนของระเบียบใหม่ แต่พลเมืองเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยจะเดินหน้าสร้างสังคมใหม่ที่มีเสรีภาพ
The father of this guy was Chinese whom escaped from China during the communism. He was accepted and allow to lived his life on our land and have much better life than other Thai nationality. His mother is British and what part in this guy blood said that he is Thai? Giles, Your father and your mother must be proud to created a son like you who ungrateful for your birth-country. You will never be happy in your life since the day you show your disrespected to our king and the dignity of Thai people. Everybody needs to accepted that nobody chose to be born. You just envy the king because he got more respect than you. You have to work hard and present yourself every ways you can to get other people to listen to you. Your father was a respectful person in the Thai history but now you destroy him because your greedy. You want to be a great person as he was but you are just being such a clown. Accept it that you will never be as great as your father. He never touch our king because he knew that he could be something else without Thailand. You will repay for every disrespect you did to our country when you get older.
ReplyDelete1. You will never have a single chance to return to Thailand in peace and welcome any more.
2. You will lived life in fear and unhappy for all your life.
3. Your children will disrespect you and they will follow every single step you did.
4. You will have no dignity left in This world because of your jealousy in our king.
Everything is already happened to you and you still don't see it.
You lost your job as a teacher and 99% of your student turn you down. Everyone disrespected you and that included all my friends from Thammasart and Chulalongkorn. Everyone said to me that you are the worst teacher ever because you don't teach them what they need but you just blaming the king and other people who is in the better position than you. They don't want to against you at that time because you can make them fail in their education at that time.
Asked yourself ''What did you father asked you in your dreams?''
Asked yourself ''Isn't that because of our King who let your father stay in our country and earn all respected from other Thai people as a person who lead a peace of democracy to Thailand.''
''You show your disrespected to our king all over the world but have you seen once that he do anything against you?''
You are just a clown and I don't think that you will make your father proud of you at all. Do you really hate your father so much, didn't you? That why you do everything to erase him from the Thai history as a Leader of Peace Democracy. You did success now because there was no celebration for your father any more. Everyone got upset with him because of you and nobody respect him any more. You really make him proud to have a son like you, Giles.
Ajarn Giles knows the truth. He helps Thai people open their eyes. Thai people need to worship him and only him.
ReplyDelete