Sunday, January 31, 2010

เสื้อแดงคนไทยยูเคเปิดโปง นักวิชาการเหลืองที่ลอนดอน

เสื้อแดงคนไทยยูเคเปิดโปง นักวิชาการเหลืองที่ลอนดอน
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2553 สถานทูตไทยในอังกฤษได้จัดงาน “แก้ตัวแทนอำมาตย์สร้างภาพความบริสุทธิ์” เพื่อหลอกลวงนักศึกษาไทยและนักวิชาการต่างประเทศ โดยเชิญ สุจิต บุญบงการ และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ มาเป่าหูประชาชน ที่ SOAS มหาวิทยาลัยลอนดอน โดยที่ก่อนเข้าห้องสัมมนาสถานทูตมีการแจกโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” และบทความของ บวรศักดิ์ ที่สร้างความชอบธรรมให้กับกฎหมายหมิ่นเดชานุภาพ

อย่างไรก็ตามชาวไทยที่รักประชาธิปไตยในอังกฤษได้รวมตัวกันเพื่อเปิดโปงสองโฆษกของอำมาตย์ มีการแจกใบปลิว และมีการตั้งคำถามคมๆจากผู้เข้าฟังหลายคน (แต่ขอไม่แจ้งนามเพื่อปกป้องความปลอดภัย) ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่สถานทูตพยายามใช้ยามของมหาวิทยาลัยเพื่อห้ามไม่ให้มีการแจกใบปลิวและเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ ใจ อึ๊งภากรณ์ เข้าไปในที่ประชุมแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ทูตไทยประจำอังกฤษเปิดการประชุมโดยสร้างภาพลวงตาว่าขบวนการเสื้อแดง ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ และพูดต่อไปว่ากษัตริย์ไทยอยู่เหนือการเมืองมาตลอด

สุจิต บุญบงการ นำการอภิปรายโดยอ้างเช่นเดียวกับทูตว่าคนเสื้อแดงเป็นตัวแทนของคนส่วนน้อยในสังคม ในขณะที่คนส่วนใหญ่เป็น “พลังเงียบ” การวาดภาพสังคมการเมืองไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันของ สุจิต มีลักษณะ “ประหยัดในความจริง” เพราะไม่กล่าวถึงรายละเอียดการยุบพรรค การมีสองมาตรฐานทางกฎหมาย หรือ บรรยากาศการเซ็นเซอร์สื่อ นอกจากนี้ สุจิต ดูเหมือนความจำเสื่อมเพราะเสนอว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่เคยมีในสังคมไทยก่อนหน้านี้ เขาคงลืม ๒๔๗๕ หรือ ยุค ๒๕๑๖-๒๕๒๓
เมื่อถูกตั้งคำถามว่าเห็นด้วยกับกฎหมายหมิ่นฯและกระบวนการของศาลหรือไม่? สุจิต ตอบว่า กระบวนการยุติธรรมในกรณีกฎหมายหมิ่นฯ ดีอยู่แล้ว “เป็นธรรมและจำเป็นต้องปิดศาลในการพิจารณาคดี” (ซึ่งเรามองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานความโปร่งใสสากล) มีการพูดถึงคณะกรรมการใหม่ที่อภิสิทธิ์ตั้งขึ้นเพื่อทบทวนการใช้กฎหมายหมิ่นฯ เหมือนกับว่าจะสร้างความยุติธรรม แต่นักสิทธิมนุษยชนหลายคนสงสัยว่าวัตถุประสงค์จริงคือการทำให้กฎหมายหมิ่นฯ มีประสิทธิภาพสูงขึ้นต่างหาก สุจิต พูดอีกว่าคนที่ถูกลงโทษในคดีหมิ่นฯสามารถร้องเรียนไปถึงกษัตริย์ได้แต่ลืมบอกว่าในกรณี สุวิชา ท่าค้อ ยังไม่มีคำตอบมาทั้งๆที่ติดคุกมาหนึ่งปีแล้ว และในกรณีที่ผู้ถูกคุมขังยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจะไปขอขมาทำไม สุจิต จบลงด้วยการเสนอว่าในประเทศไทยเรามีเสรีภาพในการแสดงออกไม่ได้ เพราะเรามีวัฒนธรรมในการรักกษัตริย์ อย่างไรก็ตามคนไทยผู้รักประชาธิปไตยขอมองต่างมุม วัฒนธรรมไทยมีหลายประเภท วัฒนธรรมไทยของสุจิต คือวัฒนธรรมทาสแต่วัฒนธรรมไทยของเราคือวัฒนธรรมของเสรีชน
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ผู้เปลี่ยนเจ้านายตามกระแสลมเพื่อเอาตัวรอดอย่างสม่ำเสมอ พยายามอ้างว่าปัญหาของสังคมมาจากความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนซึ่งต้องเร่งแก้ไข แต่เมื่อถูกถามว่าเขาจะคัดค้านเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ เพราะเป็นลัทธิที่ไม่เห็นด้วยกับการกระจายรายได้ และเป็นลัทธิของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย บวรศักดิ์ ไม่มีคำตอบ ได้แต่โกหกว่าตนเองสนับสนุนให้ไทยเป็นรัฐสวัสดิการ แต่ในประโยคเดียวกันเจ้าพ่อแห่งความเจ้าเล่ห์คนนี้ ได้โจมตีนโยบายสวัสดิการที่เป็นประโยชน์สำหรับคนจนของไทยรักไทย ว่าเป็นการสร้าง “ประเพณีการพึ่งพาในระบบอุปถัมภ์” ในประเด็นระบบอุปถัมภ์นี้มีนักวิชาการชาวอังกฤษคนหนึ่งเถียงว่านโยบายของไทยรักไทยไม่ถือว่าสร้างระบบอุปถัมภ์ เมื่อ บวรศักดิ์ ถูกตั้งคำถามว่าทำไมในประเทศไทยถึงมีการใช้สองมาตรฐานทางกฎหมาย เขาตอบว่า “ไม่จริง” และถ้ามีปัญหานี้ก็เป็นเพราะตำรวจไม่ทำตามหน้าที่ บวรศักดิ์ ชื่นชมระบบผู้พิพากษาและศาลจนน้ำลายหยด
เมื่อ บวรศักดิ์ ถูกตั้งคำถามในเรื่องคดีหมิ่นฯ และเสรีภาพในการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับกองทัพ โดยที ใจ อึ๊งภากรณ์ เสนอความเห็นส่วนตัวว่ากษัตริย์ ภูมิพล อ่อนแอ ไม่มีคุณสมบัติที่จะนำการทำรัฐประหารได้ ในขณะที่ไม่เคยปกป้องประชาธิปไตยเลย แต่ถูกทหารอ้างถึงเพื่ออาศัยความชอบธรรมจากกษัตริย์ในการทำรัฐประหาร บวรศักดิ์ เริ่มแสดงออกอาการฉุนเฉียวพร้อมกล่าวหาเท็จว่า ใจ อึ๊งภากรณ์ เขียนและพูดว่ากษัตริย์เป็นผู้สั่งให้มีรัฐประหาร อย่างไรก็ตามเมื่อมีการพิสูจน์ว่าคำพูดของ บวรศักดิ์ เป็นคำพูดเท็จ และมีการตั้งข้อสงสัยในเรื่องความสามารถทางภาษาของเขา เขาฟิวส์ขาดในทันทีและท้าให้ ใจ มาดีเบทกับเขาเป็นภาษาไทย ใจ อึ๊งภากรณ์ ยินดีรับคำท้านี้ และคนไทยรักประชาธิปไตยในอังกฤษพร้อมจะจัดเวที ให้มีการถกเถียงดังกล่าวกับ บวรศักดิ์ ขอให้เขาเพียงแต่แจ้งมาว่าเขาพร้อมจะร่วมเวทีนี้ที่อังกฤษเมื่อไหร่
ในหนังสือ “ความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ของบวรศักดิ์ ที่แจกให้คนเข้าฟัง บวรศักดิ์ พยายามสร้างภาพเท็จว่าประเทศอื่นมีกฎหมายคล้ายๆกัน แต่ผู้แทนจากองค์กรสิทธิมนุษยชนของนักเขียน (PEN) ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่ากฎหมายนี้ถูกยกเลิกไปแล้วในอังกฤษโดยที่ ราชินีอังกฤษเช็นยกเลิกเอง บวรศักดิ์ พยายามอ้างว่าประเทศไทยมี “วัฒนธรรมพิเศษ” ที่ทำให้ไทยเป็นทาสและหมอบคลานต่อ “พระพุทธเจ้าหลวง” หรือ “พ่อที่ปกครองลูก” และยังมีการพูดถึงธรรมราชาซึ่งหมายถึงกษัตริย์ที่ปกครองด้วยธรรมะ (การปกครองด้วยธรรมะ คงหมายถึงการเซ็นรับรองการทำรัฐประหาร?)

ในงานเสวนาครั้งนี้ มีวิทยากรที่เป็นนักวิชาการอังกฤษสองคนมาร่วมเสนอ และทั้งสองคนมองว่ากฎหมายหมิ่นฯ มีปัญหา คนที่น่าสนใจที่สุดคือ Duncan McCargo ซึ่งอธิบายว่าปัญหาความขัดแย้งในภาคใต้ เป็นปัญหาของการรวมศูนย์การปกครองโดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่หลากหลาย ประเด็นที่น่าคิดคือหลายๆฝ่ายในประเทศไทยรวมทั้งทหารและนักการเมือง ยอมรับว่านี่คือปัญหาจริง แต่ไม่มีใครกล้าเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นรูปธรรม และDuncan ยังพูดถึงบรรยากาศโดยทั่วไปในไทยว่าประชาชนตกอยู่ในความกลัวและไม่มีเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น

ในใบปลิว ของ ใจ อึ๊งภากรณ์ ที่แจกไปในงานเสวนาครั้งนี้ มีการเรียกร้องให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองในประเทศไทย และอธิบายว่า ปัจจุบันนี้การเรียกร้องประชาธิปไตยและการพูดความจริงกลายเป็นอาชญากรรม มีการใช้กฎหมายหมิ่นฯกระจายไปทั่วและการพยายามเซ็นเซอร์สื่ออย่างเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้มีการพูดถึงระบบสองมาตรฐานในศาลที่ยุบพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด มีการร่างรัฐธรรมนูญของทหารที่ให้ความชอบธรรมกับรัฐประหารและระบุว่าจะต้องมีการเพิ่มงบประมาณทหารในการขณะที่ต้องจำกัดงบประมาณทางสังคม ใบปลิวนี้เสนอว่าพวกที่สนับสนุนรัฐประหาร ๑๙ กันยา ดูถูกปัญญาของคนจนและต้องการหมุนนาฬิกากลับไปสู่ยุคอดีตที่มีแต่การซื้อขายเสียงของพรรคการเมือง โดยไม่สนใจประชาชน ทางออกที่จะแก้ปัญหาสำหรับสังคมไทยคือ เราต้องเอาประชาธิปไตยกลับมา เราต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นฯและกฎหมายคอมพิวเตอร์ ต้องตัดกำลังกองทัพ และนำผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนมาลงโทษ ประเทศไทยควรจะเป็นรัฐสวัสดิการและสาธารณรัฐประชาธิปไตย




--
Giles Ji Ungpakorn
UK mobile:+44-(0)7817034432 +44-(0)7817034432
UK landline +44(0) 1865-422117 +44(0) 1865-422117
http://siamrd.blog.co.uk/
http://wdpress.blog.co.uk/
http://redsiam.wordpress.com/
see YOUTUBE videos by Giles53

17 comments:

  1. ระบอบราชาธิปไตยเมืองไทย เกิดจากการคลั่งลัทธิกษัตริย์ เหมือนญีุ่ปุ่นคลั่งลัทธิจรรดินิยมสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือไทยล้าหลังญี่ปุ่นกว่าครึ่งศตวรรษ !!!

    คนไทยคลั่งกษัตริย์ทุกองค์ เท่า ๆ ที่จะหามาคลั่งได้ เีรียกได้ว่าตายแล้วก็คลั่งอยู่ทำให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอหวย ขอสารพัด
    ทั้ง ๆ ที่กษัตริย์องค์นั้น ๆ อาจตายไปแล้วเป็นร้อย ๆ ปี คนตะวันตกเขาระลึกถึงกษัตริย์ที่ตายไปแล้วในแง่ประวัติศาสตร์
    และศึกษาหาความรู้ แต่คนไทยกษัตริย์คือสิ่งศักดิ์ิสิทธิ์ในทุกกรณี
    ทุกกาลเวลา และบอกว่ายังอยู่เป็นวิญญาณวนเวียนดูแลเมืองไทยอยู่
    ซึ่งไม่รู้ว่าดูแลยังไงเพราะคนไทยยังยากจนทั้งประเทศอยู่มานมนาน

    ปัจจัยที่คนไทยยากจนแท้จริง ก็เพราะการไม่ได้รับการปกครองดูแลโดยตนเอง เพื่อตนเองอย่างแท้จริงต่างหาก แต่สนองอำมาตย์และขุนนางกษัตริย์
    คนไทยถูกกดทับศักยภาพต่าง ๆ ในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ มาตลอด โดยฝ่ายทหารอำมาตย์ที่ฉวยโอกาสจากลัทธิคลั่งกษัตริย์ของคนไทย
    ไปข่มขู่และชี้นำ ไม่กระจายอำนาจให้ประชาชน ไม่สนับสนุนให้ประชาชนฉลาดมีความรู้การศึกษาอย่างแท้จริง
    กลัวคนไทยเก่งและปกครองตนเองได้แล้วจะเสียอำนาจ
    หลอกลวงคนไทยมาตลอดว่า คนไทยขาดการปกครองแบบพ่อปกครองลูกของกษัตริย์ไม่ได้
    จนคนไทยกลายเหมือนเด็กที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และต้องมีผู้ชี้นำและนำทางโดยกษัตริย์เท่านั้นด้วย เพราะกล่าวว่ากษัตริย์คือเทพที่ลงมาจุติเพื่อช่วยเหล่ามนุษย์ เป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ ดังนั้นต้องเชื่อฟังกษัตริย์ และมีทหารอำมาตย์มารับอำนาจไปปกครองประชาชนอีกที
    ถ้าใครไม่เห็นด้วย ก็ใส่ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ไม่จงรักภักดี เป็นกบฎ คิดล้มล้างสถาบัน และดำเนินคดีเสีย

    ReplyDelete
  2. ในหลวงทรงให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน ท่านปกครองแผ่นดิน ไม่แบ่งแยกศาสนา เชื้อชาติ คุณจะนับถือศาสนาอะไร เราอยู่ร่วมกันได้ ไม่เคยมีสงคราม หรือความขัดแย้งทางศาสนาเหมือนต่างประเทศ

    ต้อนรับประชาชนต่างชาติ จีน เวียตนาม ที่หนีสงครามมา โดยไม่ได้แบ่งชั้นวรรณเลย ทุกคนอยู่อย่างสันติ

    ถ้า ไม่มีในหลวง ตอนที่ปู่ของคุณหนีสงครามมา ปานนี้ปู่คุณ ย่าคุณโดนขับไล่ไปประเทศอื่นแล้ว พ่อ แม่ของคุณ อาจไม่ได้เจอกัน แล้วก็อาจไม่มีคุณด้วยซ้ำไปในโลกใบนี้

    เศรษฐกิจพอเพียง หากเป็นชาวพุทธแท้ จะรู้ว่าความสุขที่แท้และยั่งยืนอยู่ที่จิตใจ หาใช่วัตถุ หากความเจริญทางวัตถุเข้าครอบงำ ประชาชนส่วนใหญ่แล้ว จิตใจจะตกต่ำลง คนชนบทเมื่อก่อนมีความสุขดี ถึงแม้ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย อย่างที่พวกคุณต้องการ แต่พวกเค้ามีความสุขกับครอบครัว กับเพื่อนบ้าน กับอาชีพเกษตรกรรม จิตใจดี ไม่ต้องแข่งขัน อวดร่ำอวดรวย ตอนนี้ความเจริญทางวัตถุมา สิ่งมอมเมามากขึ้น เหล้า ยาเสพติด สื่อลามก จิตใจแย่ลงไปเรื่อย...

    ท่านปกครองไม่ให้มีการกดขี่ข่มเหง ขูดเลือดขูดเนื้อ ไม่ได้ห้ามให้ประชาชนร่ำรวยซะหน่อย คนรวยก็เยอะแยะ ทักษิณก็ยังรวยซะขนาดนั้น

    คุณต้องการอะไรไปมากกว่าความสงบสุข สันติ และการไม่แบ่งแยกชนชั้น พูดไปคุณก็คงไม่สำนึกเหมือนเดิม

    ยู ซัค!!!!!

    ReplyDelete
  3. น่าสงสาร ใจ อึ๊งภากรณ์ ไม่สามารถสลัดภาพของพ่อที่เป็นเงาคลุมตัวเองไว้ได้ เลยต้องมาทำสิ่งที่เลวทราม เพื่อให้หลุดจากเงาของพ่อ

    ระยำจริงๆ

    ReplyDelete
  4. สหรัฐอเมริกาไม่ต้องมีพระเจ้าแผ่นดิน ยังต้อนรับผู้อพยพทุกๆชาติ
    ไม่ต้องมีมี พรบคอม ก็ไม่เห็นชาติจะล่มสลาย
    ไม่เห็นจะต้องแบนเว็บ โอบามา ก็ไม่ตาย
    แต่ทำไมประเทศไทยถึงกลับกัน

    ReplyDelete
  5. ถ้ัา usa ประเทศเกิดของพวกมีงดี พวกมีงก็จงอยุ่ไปซิ

    แล้วถ้าเมืองไทยไม่ดี คนไทยไม่ดี มึงจะมายุ่งกับพวกกูทำไม

    คนไทย มีความจงรักภักดีต่อสิ่งที่เราเคารพรัก

    ถ้ามึงว่างกันมาก ก็ไม่ต้องมายุ่งกับคนไทย ไม่ต้องเสือกเรื่องประเทศไทย ขอให้พวกมึงจัดการประเทศ usa ของพวกมีงให้ดีที่สุดเลยแล้วกันน่ะ ขอให้พวกมึงโชคดี ไอสัตว์ usa

    ReplyDelete
  6. คน ไทย รัก ใน หลวง ครับ

    คุณ เป็น คน ไทย หรือ ป่าว ครับ

    คุณ เกิด เมือง ไทย หรือ ป่าว ครับ

    คุณ มี พ่อ แม่ เปน คน ไทย หรือ ป่าว ครับ

    ถ้า พ่อ แม่ คุณ รู้ ว่า คุณ เป็น แบบ นี้ คิด แบบ นี้

    น่า สงสาร พ่อ แม่ พวก เมิง จัง ควา..ย เสื้อ แดง

    ReplyDelete
  7. เราคนหนึ่งล่ะรักในหลวงค่ะ

    แต่ขอยืนยันว่า "เราไม่ใช่พวกคลั่งเจ้า" เพราะมันไม่ใช่ "ความคลั่ง"

    เราอยากบอกว่ามันน่าเสียใจนะที่มีคนพูดและคิดว่าการที่เรานับถือพระมหากษัตริย์เป็นการล้าหลัง

    ในหลวงพัฒนาประเทศไทยมากว่าหกสิบปี มีโครงการมากมายที่พระองค์ทรงทำขึ้นเพื่อชาวไทย

    รูปต่างๆดูได้ตามอินเตอร์เน็ตค่ะมีมากมาย แต่ละรูปแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีให้ราษฎรไทย

    เช่น รูปตอนที่พระองค์ทรงเดินทางไปตามป่าเขาฝ่าแม่น้ำไป

    รูปที่พระองค์ทรงนั่งลงตรัสถามปัญหากับชาวบ้าน ฯลฯ

    เราว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าเป็นคนไทยอยู่ประเทศไทย ไม่น่าจะลืมได้นะคะ เพราะมันเท่ากับการลืมผู้ที่มีพระคุณต่อเรา

    เราคิดว่าพวกคุณ นปช.USA น่าจะเป็นผู้ใหญ่กันนะ อายุก็น่าจะมากกว่าเรา เกิดก่อนเรา

    ทำไมถึงไม่ทราบว่าพระองค์ทรงทำอะไรเพื่อแผ่นดินบ้าง

    ไม่เข้าใจค่ะ หรือเพราะสมัยนั้นไม่ค่อยมีข่าวพระราชกรณียกิจ?

    เราอยากให้ทุกท่านช่วยเปลี่ยนความคิดใหม่ ขออย่ามีอคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เลยค่ะ

    ในหลวงทรงเป็นคนดีจริงๆ นี่คือเหตุผลที่เรารักในหลวง มันไม่ใช่ความคลั่งแน่นอนค่ะ

    พวกคุณๆเองก็คงจะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว คิดว่าคงจะเข้าใจนะคะ มาด้วยเหตุผลค่ะ ไม่ได้มาหยาบคาย

    และหากคุณคิดว่าพวกคุณมีเหตุผล ก็ควรจะแสดงออกมาในทางที่สร้างสรรค์ค่ะ ไม่ใช่การดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพของใครๆ

    และโปรดอย่าเข้าใจผิดว่าคนส่วนใหญ่คิดเหมือนคุณ เพราะมันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ

    และกลุ่มพลังเงียบที่คุณสงสัยมันมีอยู่จริง คือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับสีใดๆ แต่ไม่อยากแสดงตัวเพราะไม่ต้องการสร้างความวุ่นวายค่ะ

    เราไม่อาจบอกได้ว่าคุณรักประเทศไทยจริงหรือเปล่า มีแต่ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ แต่ไม่ว่าจะรักหรือไม่รัก ก็ขออย่าทำลายชื่อเสียงและภาพพจน์ของประเทศด้วยการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือกล่าวหาว่าประเทศล้าหลังเลย

    การกล่าวหาว่าประเทศล้าหลังนั้นเป็นเสมือนคำพูดของไม่รู้ไม่ได้อยู่ประเทศไทย

    หุ้นก็ขึ้น เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ทั้งเทคโนโลยี เสรีภาพ อิสรภาพ เรามีหมด ยังจะต้องการสิ่งใดอีก?

    ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบเหมือนอังกฤษ หรือเหมือนประเทศไหนๆ เราก็มีแนวทางของเราที่สามารถพัฒนาไปได้

    ไม่จำเป็นต้องเอาประเทศอื่นมาเป็นบรรทัดฐานเพราะแต่ละที่ก็ย่อมมีปัจจัยต่างๆที่ไม่เหมือนกัน

    เราเทียบกับตัวเองในอดีตน่าจะเหมาะสมกว่านะคะ โปรดอ่านข้อความนี้และพิจารณาด้วยหัวใจที่ปราศจากอคติด้วยค่ะ

    ReplyDelete
  8. คุณๆผู้ไม่เอาจ้าวทั้งหลายค่ะ ดิชั้นจะพยายามพูดจาอย่างสุภาพที่สุดกับคุณอย่างปัญญาชนนะคะ....ดิชั้นไม่พอใจเลย มากๆด้วย ที่คุณจาบจ้วงถึงพระองค์ท่าน....คุณคงสำคัญผิดว่าเป็นคนรุ่นใหม่สุดโต่ง มีความคิดที่ฉลาดหลักแหลมเป็นของตัวเอง คิดนอกกรอบ และมองสิ่งดีงามที่คนไทยถือปฏิบัติกันมาว่าเป็นสิ่งล้าหลัง ไม่เจริญเทียบเท่าอารยะประเทศ...คนไทยที่รักพ่อหลวงเป็นคนโง่ เป็นลัทธิ คลั่งไคล้อย่างขาดสติ..คุณคิดอย่างนั้นสินะคะ?
    ดิชั้นเป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ทั้งครอบครัวมีความจงรักภักดีและรักพ่อหลวงของแผ่นดินอย่างที่สุด และดิชั้นไม่ได้มองว่าความจงรักภักดีนี้คือความล้าหลัง หรือว่าเป็นลัทธิที่พวกคุณบางคนกล่าวหาแต่อย่างใด(ดิชั้นเกลียดมากค่ะคำนี้ “ลัทธิคลั่งเจ้า"..คิดได้ไง?มันคือการดูถูกคนไทยว่าไม่มีวิจารณญาณชัดๆ) ตรงกันข้าม กลับเป็นการจงรักภักดีที่ไม่มีใครต้องบังคับ และมีที่มาที่ไปอย่างมีเหตุผล และเป็นข้อดีบางอย่างที่ทำให้ประเทศไทยเราแตกต่างจากประเทศอื่นๆ(ในแง่ที่ดีด้วย)..
    ดิชั้นเชื่อในวิธีคิดอันดีงามของปวงชนชาวไทย ในหลวงท่านมีบารมีและคุณงามความดีอันสูงส่งนัก ท่านคือผู้ที่สมควรได้รับการเคารพอย่างแท้จริง เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม...ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณกล่าวหา....ผู้ใดจาบจ้วงคิดร้ายต่อท่านคงแพ้ภัยตนเองอย่างโหดร้ายเข้าสักวัน......
    ดิชั้นยังคงเห็นใจคนเสื้อแดงกลุ่มรากหญ้าทีถูกหลอกใช้(หมายถึงคนที่เข้าใจผิดจริงๆ และไม่ได้เห็นแก่เงินนะคะ)...พวกคุณรีบตาสว่างสักทีเถิดค่ะ....

    ReplyDelete
  9. ผมพวกนิยมเจ้า ผมขอคิดต่างจากพวกคุณนะ

    "มาเป่าหูประชาชน ที่ SOAS มหาวิทยาลัยลอนดอน โดยที่ก่อนเข้าห้องสัมมนาสถานทูตมีการแจกโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”

    ใช้คำแรงไปมั้ย "โฆษณาชวนเชื่อ" ผมว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นเรื่องดีที่สมควรเผยแพร่ ไม่ว่าใครจะเป็นคนต้นคิดก็ตามเถอะ


    ผมก็ไม่รู้นะ ผมตั้งใจทำมาหากินโดยสุจริต ผมก็พอใจกับเสรีภาพที่มีอยู่ขณะนี้นะ (เสรีภาพที่จะไปตัดต่อรูปล้อเลียนในหลวงผมว่าไม่ถูกต้องนะ อย่าว่าแต่รูปในหลวงเลย มาตัดต่อรูปผมดูซิ)

    ReplyDelete
  10. ขอให้คนคิดร้ายกับนายหลวง และ ประเทศชาติ ตายไวๆ เวรกรรมตามทันมันไปทุกชาติๆไป ความสุขของมันอยู่ที่สีแดงก็ทำไป นรกสีแดงจะพามันลงโลกันต์ มะเร็งร้ายจงเจริญเติบโตทั่วทั้งเซลล์อะตอม ดีเอ็นเอ หน้าเหลี่ยมๆ ก็จะตายในเร็ววัน สาธุ ไอ้คนเลว

    ReplyDelete
  11. ขอให้ ไอ้แม้วตายเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ReplyDelete
  12. ถ้าแน่จริงไอ้พวกที่พาดพิงกษัตริย์มึงเอาชื่อ ออกมาดิว่ะ

    ทำเป้นเ่ห่าจะสู้อำมาต โธ่!!ไอ้พวกไพร่สมที่พวกมึงอยากเป้นอ่ะแหละ

    พวกมึงอ่ะอย่าหลบซ่อน เหมือนแตดหรือคริตอลิสที่ซ่อนอยู่ในหี สิครับ

    แต่ก็เข้าใจนะไร้การศึกษาก็มักเป้นงี้

    ReplyDelete
  13. คนอย่างพวกคุณก็เป็นได้แค่กระบอกเสียงของนายทุน ที่ซื้อคุณได้ด้วยเงิน และลัทธิที่คุณว่าคนไทยว่าเป็น 'ลัทธิคลั่งเจ้า' นั้น ฉันคิดว่าคุณก็คงเป็นลัทธิคลั่งเงิน หรือไม่ก็ระบอบคอมมิวนิสต์ คุณคิดว่าคุณ ๆๆ ทั้งหลายสามารถปกครองประเทศได้ดีกว่าในหลวงงั้นเหรอ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศไทยจริง ๆๆ บ้าง คุณเคยทำอะไรเพื่อประเทศไทยบ้าง เคยลองถามตัวเองก่อนหรือเปล่า ถึงมาสร้างเว็บปั่นหัวชาวบ้านแบบนี้ คนอย่างพวกคุณเกิดมาก็หนักแผ่นดินไทย ดีแล้วแหละที่ไปอยู่ประเทศอื่น ประเทศไทยจะได้สูงขึ้นบ้าง

    ReplyDelete
  14. อีกระหรี่ทั้งหลายโปรดฟังพวกมึงจะเป็นเอดส์อยู่อเมริกาก็ตายห่าแม่งที่นู่น ทราบแล้วกรุณาทำตามกันโดยถ้วนหน้าเพราะถ้าพวกมึงเป็นเอดส์กลับมาก็ต้องมาเข้า รพ ที่นี่เข้า รพ หลวงอีก เพราะพวกมึงก็แค่กระหรี่อยู่เมืองนอก สุดท้ายก็คือขี้ข้าฝรั่ง ไม่มีตังค์เหมือนเดิม กลับมาก็คงเข้า รพ ดีๆไม่ได้เพราะว่าคงไม่มีปัญญา เพราะขนาดปัญญาจะคิดให้ดียังไม่มีเลย 55555 ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่พวกมึง เพราะพวกอีเหี้ยสอนลูกไม่เป็น สันดารมันก็เหี้ยเพราะไม่ฟังตอนแม่งยังเด็ก ไม่ฟังปู่ ย่า ตา ยาย มันสอนเหมือนกัน หรืออาจเป็นได้ว่า ปู่ย่าตายาย มันก็เห็น คือกูจะเปรียบได้ว่า เหี้ยทั้งโครตบรรพบุรุษมึงเลย อีกระหรี่ พ่อแม่พวกมึงฝากมาบอกว่าไม่ต้องส่งเงินมาให้พวกแม่งสันดารจันฑารใช้แล้ว เพราะว่า พวกดอกทองอย่างพวกมันสามารถหาเงินได้เองวันละ 500-2000 ตามกำลังศรัทธา ตอนนี้พวกมันอยู่ดีมีสุขแล้ว มันฝากมาบอกด้วยว่าไม่ต้องคิดถึงค่าน้ำนม อีแม่สัมพเวสี มันว่างั้น มันบอกว่าเลือดที่แม่มันกรีดเพื่อเงิน 2000 นั้นยังมากกว่าที่ให้พวกอีจันฑารพวกมึงแดกตอนเพิ่งเกิดอีก เพราะฉะนั้น มันก็ไม่เห็นค่าของเลือดสีขาวๆที่ให้พวกมึงแดกเช่นกัน มันบอกว่าถือให้หมามันกิน แต่มึงไม่ต้องเถียงว่ามึงไม่ใช่หมานะ เพราะพวกมึงเป็นควาย.......ตอนนี้พวกแม่งโครตเง่าพวกมึงบอกว่า พวกมันมีเงินทำศพแล้วเวลาตายห่าไป พ่อเหลี่ยมมันบริจาคเศษเงินของมันมาให้แล้ว มันบอกให้อีพวกมึง กระหรี่จันฑาร ว่า "ไปตายห่าที่ไหนก็ไป อีกระหรี่เสียชาติเกิด"

    ReplyDelete
  15. น่าสงสาร นักโทษชายขายชาติ ใจ อึ้งภากรณ์ คนหลงตัวเองชนิดกู่ไม่กลับ ไม่สามารถสลัดภาพของพ่อที่เป็นเงาคลุมตัวเองไว้ได้ เลยต้องมาทำสิ่งที่เลวทราม เพื่อให้หลุดจากเงาของพ่อ
    หลงตัวเอง Giles Ji Ungpakorn
    หลงตัวเอง Giles Ji Ungpakorn
    หลงตัวเอง Giles Ji Ungpakorn
    ไร้คนชื่นชม เลยต้องออกมา หลงตัวเอง Giles Ji Ungpakorn

    ReplyDelete
  16. น่าเสียใจ วัฒนธรรมไทยไม่ได้ขัดกล่อมจิตใจคุณ พวก นปช USA ประเทศไทยเป็นเอกราชมาจนถึงปัจจุบัน เป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวเพราะเอกลักษณ์การเป็นสยามเมืองยิ้ม คนจะยิ้มได้ก็ต่อเมื่อมีความสุข ประเทศนี้มีความสุขมากจนกลายเป็นสยามเมืองยิ้มที่ประเทศใดๆ ในโลกก็ไม่มีใครเสมอเหมือน เราเป็นประเทศที่ประชาชนมีความสุขเป็นที่สุดหาที่เปรียบไม่ได้ คุณไม่เคยได้รับมัน ช่างน่าสงสารจริงๆ ... คนไทยทุกคนไม่ได้คลั่งเจ้า แต่เค้ารู้ว่าใครอุทิศตัวเพื่อประชาชน โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ สายเลือดไทยคงไม่มีในตัวคุณ วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจังไร

    ReplyDelete
  17. เราเห็นด้วยนะ

    มันไม่สมควรมีแล้วอ่ะ สถาบัน

    โคลนติดล้อประชาธิปไตยไทย

    เฮ้อ จะว่าไปก็โทษคนไทยไม่ได้อ่ะ

    เราโดนปลูกฝัง กรอกหู มาตั้งแต่ยังเด็กๆ

    เลยเป็นแบบนี้กันเกือบทั้งประเทศ

    อยากให้ตาสว่างกันเร็วๆ!!!

    ReplyDelete

Note: Only a member of this blog may post a comment.